top of page
  • Writer's pictureThe Isaander

นครพนม : ทหารซ้อมคนตาย 1 เจ็บ 1 บิ๊กแดงลั่น ถ้าผิดจริงพร้อมลงโทษ


“ลูกซายคนเล็ก แม่ถามว่าเป็นแนวได๋ เจ็บ มันเว้าน่ะ เจ็บกระดูกข้าง เจ็บหน้าเอิ๊กแม่ เพิ่นซ้อมบ่ลูก ซ้อม ซ้อมซั่มกันกับอ้าย แต่อ้ายน่ะบั๊ด” นางป่าน ซ้ายซา มารดาของ นายยุทธนา ซ้ายซา หรือ ด่อน อายุ 33 ปี และนายณัฐพงษ์ ซ้ายซา หรือแดง อายุ 29 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ภายใน หมู่ 6 บ้านยางคำ ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งอ้างว่า ถูกกลุ่มชายในชุดพรางใช้กำลังทำร้ายจนเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563 กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว การเปิดเผยครั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายนิวัฒน์ ซ้ายซา อายุ 59 ปี และนางป่าน ซ้ายซา อายุ 56 ปี สามี-ภรรยา นำเรื่องดังกล่าว มาขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ หลังจากเข้าร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.ธีระพงษ์ ท่าโทม รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธาตุพนม จากกรณีที่ นายยุทธนา และนายณัฐพงษ์ ถูกกลุ่มชายซึ่งแต่งกายด้วยชุดลายพราง อ้างเป็นทหารชุดปราบปรามยาเสพติด บุกนำตัวชายทั้งคู่ไปจากเถียงนา ใกล้สวนยางท้ายหมู่บ้านในช่วงเวลา 20.30 น. วันที่ 17 เมษายน 2563 กระทั่ง เวลา 01.00 น. ของวันที่ 18 เมษายน 2563 มีโทรศัพท์เข้ามาที่บ้านของนางป่าน และนายนิวัฒน์ เป็นเบอร์ของนายยุทธนา แต่ปลายสายเป็นเสียงชายคนหนึ่ง แจ้งให้ไปดูอาการลูกที่ได้รับบาดเจ็บและรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม เมื่อถึงโรงพยาบาล นายนิวัฒน์ และนางป่าน ได้พบกับชายแต่งกายลายพรางคล้ายทหาร กล่าวขอโทษ และระบุว่า จะขอรับผิดชอบ โดยหลังจากนั้นไม่นาน แพทย์ได้แจ้งว่า นายยุทธนา เสียชีวิต เบื้องต้นสภาพร่างกาย คล้ายคนถูกทำร้าย ขณะที่ในเวลานั้น ครอบครัวยังหาตัวนายณัฐพงษ์ ไม่เจอ ต่อมา นายนิวัฒน์ และนางป่าน จึงได้นำหลักฐานไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในกรณีที่ ลูกชายคนโตถูกทำร้าย และลูกชายคนเล็กหายตัว กลุ่มชายชุดพรางอ้างทั้งคู่ค้ายา จึงต้องซ้อมให้สารภาพ หลังจากนั้น ในวันที่ 18 เมษายน 2563 ช่วงเย็น ครอบครัวพบ นายณัฐพงษ์ในสภาพซี่โครงหัก โดย นายณัฐพงษ์กล่าวต่อสื่อว่า มีชาย 7-8 คน มารุมทำร้ายเขา “ฉันถามแหน่ว่าลูกฉัน มันยังหรือมันตาย โอ้ยบ่เป็นหยัง บ่อเป็นหยัง เพิ่นว่า กินข้าว กินน้ำดี บ่อเป็นหยัง บัดไปเห็นสภาพแล้วแหม คนจะตายยังว่า บ่เป็นหยัง บ่เป็นหยัง ฆ่าลูกข่อยคัก ฆ่าลูกข่อยแหน่เนาะ ข่อยขอน้องไปโรงพบาลแหน่” นางป่าน เล่าเหตุการณ์ก่อนพบลูกชายคนเล็ก นางป่าน ยังเล่าให้สื่อฟังอีกว่า ลูกชายทั้งสองคนนั่งกินข้าวด้วยกันที่เถียงนา จากนั้นมีชายฉกรรจ์ สวมชุดลายพรางหลายคนบุกเข้าคุมตัวทั้งคู่เอาไว้ แล้วตะโกนถามว่า เอายาบ้าไปซ่อนไว้ที่ไหน ซึ่งทั้งคู่ตอบว่าไม่มี ชายกลุ่มดังกล่าวไม่เชื่อ จึงจับทั้งคู่ใส่กุญแจมือ และนำตัวไปสอบสวนภายในฐาน ซึ่งตั้งอยู่ในวัดกัณตะศิลาวาส นายยุทธนาและนายณัฐพงษ์ ถูกนำตัวไปสอบสวนแยกกัน และถูกใช้กำลังทำร้าย จากชายกลุ่มละ 7-8 คน เพื่อบังคังให้สารภาพว่าเป็นผู้ค้ายาเสพติด โดย นายณัฐพงษ์ระบุว่า เขาได้บอกกับชายกลุ่มที่ทำร้ายเขาว่า ตนเองเป็นเพียงผู้เสพ ไม่ใช่ผู้ค้า โดยก่อนหน้านี้ซื้อยามาจากคนในหมู่บ้าน ซึ่งปัจจุบัน ผู้ขายยารายนั้นถูกจับกุมตัวไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนเองและพี่ชายยังถูกทำร้ายอยู่ราวชั่วโมง และเมื่อกลุ่มชายชุดพรางเห็นว่า นายยุทธนา สลบ และมีอาการตาค้าง จึงได้นำตัวไปส่งโรงพยาบาล กระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา แม่ยอมรับ ลูกเสพยาจริง แต่ลูกคือกำลังหลักหาเลี้ยงพ่อแม่ “ยอมรับว่า ลูกนะเสพยา แต่ว่าไม่เคยด่าพ่อด่าแม่ คุมเอาเงินเอาคำ แต่เสพ ก็ยอมรับ เพิ่นว่า สิรับผิดชอบงานศพ เพิ่นรับเป็นเจ้าภาพ (นักข่าวถามว่าอยากให้เขารับผิดชอบอย่างไร) เยียวยาเฮาเด้เนาะ ลูกผู้นี้น่ะ เป็นผู้อ้าย แล้วก็หาเงิน หาคำ ให้แม่ใช้ กรีดยาง พ่อน่ะทำงานบ่ได้เป็นโรคลิ้วหัวใจฮั่วค่ะ ลูกผู้นี้แหละเนาะเฮ็ดให้แม่กิน บัดลูกผู้นี้ตาย ไผสิเบิ่งแม่เบิ่งพ่อ ลูกผู้น้อยข่อยก็จั๊กตาย จั๊กยัง เจ็บอยู่ ขั่นเฮาได้ 10-20 ล้าน เฮาก็บ่พอใจ ชีวิตลูกมันประเมินกันบ่ได้” ด้าน นายนิวัฒน์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวว่า ยังทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ และมองว่า คนที่ทำร้ายลูกชายของตนทำเกินกว่าเหตุ การซ้อมขณะที่ถูกใส่กุญแจมือ เป็นการกระทำที่รุนแรง โดยไม่คิดว่า เจ้าหน้าที่รัฐจะกระทำความรุนแรงเช่นนี้ ต่อมาในวันที่ 19 เมษายน ตำรวจได้ส่งศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น ผบ.ทบ. ห่วงครอบครัวผู้เสียหาย เตรียมเอาผิดทหารหากพบทำร้ายจริง ต่อมา พ.อ.บุญสิน พาดกลาง รองผู้บังคับบัญชากองกำลังสุรศักดิ์มนตรี(รอง ผบ.กกล.ฯ) จังหวัดอุดรธานี ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ เข้าเยี่ยมอาการนายณัฐพงษ์ ที่ชั้น 2 ตึกผู้ป่วยในชาย อาคารผู้ป่วยในเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษามหาวชิราลงกรณ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม โดยกล่าวขอโทษ มอบกระเช้าดอกไม้ และเงินช่วยเหลือแก่นาย นิวัฒน์ และนางป่าน โดยระบุว่า ขอโทษที่ผู้ใต้บังคับบัญชากระทำเกินกว่าเหตุ ปัจจุบัน ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว และมีคำสั่งให้ชุดปฏิบัติการณ์ที่ร่วมกันคุมตัวและทำร้ายคนทั้งคู่ ซึ่งมี นายทหารสัญญาบัตร ยศร้อยโทเป็นหัวหน้าชุด และทหารชั้นประทวนจน ถึงทหารเกณฑ์รวม 11 นาย หยุดการปฏิบัติหน้าที่ โดยทหารทั้งหมดเป็น ทหารของศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ชายเเดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ตอนบน) หรือ ศอ.ปส.ชอน.(บ) ซึ่งขึ้นตรงกับ กกล.สุรศักดิ์มนตรี พ.อ.บุญสิน ยังระบุว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมแสดงความเสียใจที่ต้องสูญเสียเสาหลักของครอบครัว ด้วยการปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งหากผลการผ่าชันสูตรศพออกมาว่า เสียชีวิตจากการถูกทำร้าย ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับทหารทั้ง 11 นายทันที โดยระหว่างการพูดคุยของ พ.อ.บุญสิน กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พ.อ.บุญสิน ได้เชิญให้สื่อมวลชนออกไปอยู่ข้างนอกห้องผู้ป่วย อ้างอิง : https://www.youtube.com/watch?v=c-yvESd3zzs https://www.youtube.com/watch?v=cbJNt7GNa5A https://www.77kaoded.com/news/tawee/1545870 https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2146669 https://www.thaipost.net/main/detail/63627 https://voicetv.co.th/read/IFszlltp8 #TheIsaander #Isaan #Isaannews #อีสานเด้อ #อีสาน #ข่าวอีสาน #ทหาร #มีไว้ทำไม #ซ้อม #หมายถึง #ซ้อมรบ #เปล่า #ซ้อมคน #ซ้อมเฮ็ดหยังล่ะ #ซ้อมจนตาย #โหด #กระด้อ #กระเดี้ย

57 views0 comments
bottom of page