top of page
  • Writer's pictureThe Isaander

แม่ทัพตู่จะไม่ยอมให้ใครกักตุนของ-พาณิชย์ลุยตรวจ ไม่พบไข่แพง แต่จับหน้ากากได้ 6 ราย


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการแถลงสถานการณ์โควิด-19 วานนี้ เปรียบตัวเองเป็นแม่ทัพสู้ภัยโควิด-19 ยืนยันว่า จะไม่ให้บุคลากรทางการแพทย์ขาดแคลนอุปกรณ์ ผู้ป่วยทุกรายต้องมีเตียง และยาพร้อม “หมอและพยาบาล เปรียบเสมือนนักรบที่อยู่แนวหน้าที่คอยต่อสู้และสกัดกั้นข้าศึกที่มองไม่เห็นด้วยความเสียสละ และอดทน ผมในฐานะแม่ทัพจะไม่ยอมให้กำลังหลักของเราต้องต่อสู้ ภายใต้ความขาดแคลนไม่ได้อย่างเด็ดขาด ผมขอยืนยันนะครับ ว่าเรามียาที่จำเป็นในการรักษาอย่างเพียงพอ แล้วก็มีแผนจัดหาเพิ่มเติมจากต่างประเทศเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่อาจลุกลามขึ้นได้ในอนาคต” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว “นอกจากนั้นเรายังมีความพร้อมในเรื่องของเตียงสำหรับผู้ป่วย โดยเราสามารถเพิ่มศักยภาพจากโรงพยาบาลทุกสังกัด หอพักและโรงแรมให้พร้อมรองรับผู้ป่วยที่อาจจะเพิ่มมากขึ้น ขอให้เชื่อมั่นว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดทุกคนจะมีเตียงและยาในการรักษาอาการป่วยตามมาตรฐานสากลทุกประการ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติม “ผมจะไม่ปล่อยให้ผู้ใดกักตุน หรือฉวยโอกาส แสวงหาผลประโยชน์ซ้ำเติมความทุกข์ยากของคนไทยในยามนี้ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนหาต้นตอของปัญหาตลอดสายการผลิต ตลอดต้นทาง กลางทาง ปลายทาง โดยสามารถจับกุมผู้กระทำผิดไปแล้ว หลายราย” นายกรัฐมนตรี ระบุ อ้างอิง : https://www.youtube.com/watch?v=lN3CuZMrUfs พาณิชย์โหมงานหนัก จับไข่แพง 0 ราย หน้ากากเกินราคา 6 ราย นายสุพพัต อ่องแสงคุณ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 31 มีนาคม 2563 เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ทั้งในกรณีของไข่ไก่ และหน้ากากอนามัย “ในส่วนของไข่ไก่ ไม่พบผู้กระทำความผิดทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเป็นผลจากการเข้มงวดตรวจสอบผู้กระทำผิดกฎหมาย ทำให้สถานการณ์ไข่ไก่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ปริมาณไข่ไก่เข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้น และปัญหาการจำหน่ายไข่ไก่ราคาสูงเกินจริงลดลง ส่วนยอดจับกุมรวมตั้งแต่วันที่ 26-31 มีนาคม 2563 ยังคงที่อยู่ที่ 24 ราย” “ผลการจับกุมผู้กระทำความผิดในส่วนของหน้ากากอนามัย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 จับกุมได้อีก 6 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 5 ราย ได้แก่ ร้านค้า Online บน Platform Facebook 2 ราย เป็นการล่อซื้อและจับกุม โดยกระทำความผิดจำหน่ายเกินราคาควบคุม และขายราคาเกินสมควร โดยหนึ่งในนั้นผู้กระทำความผิดเป็นชาวเวียดนาม (จำหน่ายหน้ากากนำเข้า) ร้านค้าทั่วไป 2 ราย โดยทั้ง 2 ราย เป็นการกระทำความผิดในข้อหาขายเกินราคาควบคุม พบขายหน้ากากอนามัย เฉลี่ยชิ้นละ 16–25 บาท และอีก 1 ราย กระทำความผิดไม่แจ้งการครอบครองเจลแอลกอฮอล์และแอลกอฮอล์” นายสุพพัต เปิดเผยอีกว่า การจับกุมในส่วนของต่างจังหวัดพบ 1 ราย ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ ได้ทำการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ และกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ตำรวจภูธรปทุมราชวงศา ด้วยการเข้าล่อซื้อหน้ากากอนามัยแบบเส้นใยสังเคราะห์ 3 ชั้น สีฟ้า-ขาว จำนวน 5 ชิ้นๆ ละ 20 บาท จากร้านค้าใน ต.คำโพน อ.ปทุมราชวงศา พบหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ แบบกรอง 3 ชั้น สีขาว-เขียวฟ้า จำนวน 3 กล่องเศษ รวม 161 ชิ้น จึงได้ยึดไว้เป็นของกลางและเชิญผู้ประกอบการร้านค้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สภ.ปทุมราชวงศา เพื่อดำเนินคดีกระทำความผิดจำหน่ายเกินราคาควบคุม และไม่ปิดป้ายแสดงราคา โดยโทษที่ผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม (มาตรา 25) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย (มาตรา 28) มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ข้อหาขายแพงเกินสมควร (มาตรา 29) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อ้างอิง : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/28289 #TheIsaander #Isaan #Isaannews #อีสานเด้อ #อีสาน #ข่าวอีสาน #ดิอีสานเด้อ #ไวรัส #โคโรนา #สายพันธุ์ใหม่ #ไทย #นายก #เอาอยู่ #Covid19 #โควิด #สิทธิเสรีภาพ #สื่อ #สื่อมวลชน #ประชาชน #ครม ขอบคุณภาพประกอบ : www.thaigov.go.th

5 views0 comments
bottom of page