กรมควบคุมโรค เปิดเผยตัวเลขผู้ติดเชื้อวันนี้ โดยระบุมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 111 ราย รวมป่วยสะสม 1,045 ราย เสียชีวิตคงที่ 4 ราย โดยภาคอีสานพบผู้ติดเชื้อแล้ว 53 ราย โดยแยกเป็นจังหวัดดังนี้ เลย 2 อุดรธานี 7 หนองบัวลำภู 1 ขอนแก่น 3 กาฬสินธุ์ 1 มุกดาหาร 3 ร้อยเอ็ด 2 ยโสธร 1 อำนาจเจริญ 1 อุบลราชธานี 12 ศรีสะเกษ 2 สุรินทร์ 5 บุรีรัมย์ 5 นครราชสีมา 8 รวม 53 ราย จาก 14 จังหวัดในภาคอีสาน http://covid19.ddc.moph.go.th/ กรมควบคุมโรค ยังได้เปิดเผยผลการสอบสวนโรค ที่ระบุวันและสถานที่ ซึ่งผู้ติดเชื้อได้เดินทางไป ด้วยสำหรับภาค อีสานสามารถระบุได้ 5 จังหวัด 20 สถานที่ ดังนี้ จังหวัดอุบลราชธานี ตะวันแดง 9 มีนาคม มิกซ์ผับ 9 มีนาคม ริคโก้ 12 มีนาคม ยูบาร์ 13-14 มีนาคม ร้านชมจันทร์ 14 มีนาคม เที่ยวบินนกแอร์ DD9325 อุบล-ดอนเมือง 15 มีนาคม นครชัยแอร์ กรุงเทพฯ-อุบล 16 มีนาคม แท็กซี่ บ.บริการดี อุบล จำกัด ทข.486 19 มีนาคม จังหวัดขอนแก่น โรงเหล้ามิตรภาพ 7 มีนาคม ตะวันแดง 8 มีนาคม และ 15-16 มีนาคม ซอดแจ้ง หมูกระทะ ชิวชิว 12 มีนาคม ตลาดหนองไผ่ล้อม 16 มีนาคม บ.หนองหัวช้าง ต.โคกสำราญ อ.บ้านแฮด 14 มีนาคม จังหวัดนครราชสีมา สนามไก่ชน อ.โนนไทย 7 มีนาคม มวยตู้ ต.กุดจิก อ.สูงเนิน 8 มีนาคม ธนาคารกรุงไทย สาขาสามแยกปัก 10-12 มีนาคม และ 16-19 มีนาคม บขส.ใหม่ รถประจำทาง บริษัทเฉลิมพล ขนส่งปลายทาง อ.ประทาย 13 มีนาคม และ 15 มีนาคม จังหวัดสุรินทร์ ตลาดช่องจอม อ.กาบเชิง 15 มีนาคม งานศพ ม.3 ต.ลำดวน อ.ลำดวน 16 มีนาคม รถทัวร์เฟิร์สคลาส ระยอง-สุรินทร์ เที่ยว 8224 (ออกจากพัทยา) 22-23 มีนาคม บุรีรัมย์ เที่ยวบินการบินไทย TG 917 ลอนดอน-สุวรรณภูมิ 16-17 มีนาคม กรมควบคุมโรค แนะนำให้ผู้ติดเดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าวตามเวลาที่ระบุ ไปรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคในจังหวัดของท่านเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และขอให้กักตัวเองเพื่อดูอาการ ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ อ้างอิง : https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/file/check_covid19_260363.pdf ทั่วประเทศ ป่วยทะลุพันแล้ว นายแพทย์อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวในการแถลงข่าวที่กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมเกินหนึ่งพันรายแล้ว ขณะที่ผู้เสียชีวิตยังคงที่เท่าเดิม “พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 111 ราย รวมผู้ป่วยสะสมถึงวันนี้ 1,045 ราย มีเคสเสียชีวิตอยู่ 4 ราย มี 88 รายที่กลับบ้านแล้ว อาการหนักอยู่ 4 ราย ที่ยังอยู่อยู่โรงพยาบาล 953 ราย มีทั้งอาการไม่รุนแรง และอาการรุนแรงปานกลาง จุดเปลี่ยนประเทศไทยอยู่วันที่ 15 มีนา ซึ่งมีการรายงานเพิ่มขึ้นเป็นหลักสิบ จนกระทั่งถึงหลักร้อย สองสามวันนี้ค่อนข้างคงตัวเป็นหลักร้อย” นพ.อนุพงศ์ กล่าว “ถ้าเราดูตัวเลข ถ้ามันเพิ่มขึ้นประมาณ 100 จนกระทั่งถึง 30 เมษา เราก็คงมีผู้ป่วยถึงประมาณ 3.5 พันทั้งประเทศ ถ้าหากมาตรการที่ออกมาไม่แรงพอ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ที่ประกาศออกมาแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยหน่วงสถานการณ์ ผมก็คาดหวังว่าประเทศไทยคงไม่ไปถึงตัวเลข 3.5 ในสิ้นเมษา” นพ.อนุพงศ์ กล่าวเพิ่มเติม ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ 3 รายในวันนี้ โดยพบในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ มุกดาหาร และกรุงเทพฯ ทำให้ปัจจุบัน พบผู้ติดเชื้อซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์สะสม 9 รายแล้ว อ้างอิง : https://www.youtube.com/watch?v=MX98phv_mxY&t=2311s เสี่ยหนู ไม่พอใจ หมอไทยติดโควิด-19 ต่อประเด็นการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า รู้สึกไม่พอใจที่พบแพทย์ติดเชื้อเนื่องจาก บุคลากรสาธารณสุขจำเป็นต้องเป็นตัวอย่างในการดูแลตัวเอง “เท่าที่ผมได้รับรายงานมา การติดเชื้อของแพทย์จากการปฏิบัติหน้าที่ให้การรักษาโควิดยังไม่มี นี่คือสิ่งที่จะต้องไปหวดกัน อันนี้ต้องยอมรับ พวกเราก็ไม่พอใจ สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่เฝ้าระวังตัวเอง ซึ่งเราควรจะต้องเป็นบุคคลตัวอย่าง ต้องรู้ตัวว่าช่วงนี้มีสถานการณ์ระบาด โรคแบบนี้เราต้องเซฟตัวเองให้มากที่สุด... ขอให้บรรดาแพทย์ พยาบาล รักษาตัวเองเป็นอย่างดี… เป็นสิ่งที่ต้องระวัง มัวแต่ไประวังของนอกบ้าน ของนอกบ้านบางทียังหละหลวมอยู่ ก็ต้องขออภัยด้วย และจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก” นายอนุทิน ระบุ อ้างอิง : https://www.youtube.com/watch?v=yUkGtcT-39U ตั้งด่านทั่วประเทศ 357 ด่านทั่วประเทศสกัดเชื้อ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศสภาวะฉุกเฉิน โดยใช้อำนาจตาม พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 26 มีนาคม 2563 ซึ่งมีมาตรการหลายมาตรการที่เข้มงวดขึ้น เช่น ห้ามการเข้าออกประเทศ ตั้งด่านตรวจระหว่างจังหวัด ป้องกันการกักตุนสินค้า และเข้มงวดเรื่องการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดโควิด-19 ทำให้ปัจจุบัน ทั่วประเทศมีการตั้งด่านสกัดเพื่อคัดกรองคนที่สัญจรไปมาแล้ว โดยเบื้องต้น พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 พล.อ. พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.สส.) ในฐานะผู้อำนวยสถานการณ์โควิด-19 ด้านความมั่นคง ได้แถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า รัฐบาลจำเป็นต้องเข้มงวดเพื่อคุมสถานการณ์การระบาด โดยจะดำเนินมาตรการจากเบาไปหาหนัก “การประกาศภาวะฉุกเฉินในกรณีที่ต้องเอาชนะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดเป็นความจำเป็น ความพยายามก่อนหน้านี้ที่รัฐบาลพยายามใช้กลไกปกติในการบริหาร จุดประสงค์หลักก็คือ ไม่ประสงค์จะให้เกิดความตระหนกในหมู่ประชาชน ไม่ประสงค์จะทำให้เศรษฐกิจต้องเสียหาย ไม่ประสงค์จะทำให้เกิดการรบกวนการใช้ชีวิตโดยปกติของประชาชน แต่เมื่อมาถึงจุดจุดหนึ่งที่ตัวเลขได้ชี้แล้วว่า อาจจะไปมากกว่านี้ รัฐบาลจึงจำเป็นต้องยกระดับขึ้น จุดตรวจ ขณะนี้จนถึงปัจจุบัน ได้ตั้งขึ้น 357 แห่งทั่วประเทศ จะมี 7 แห่งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ” พล.อ. พรพิพัฒน์ ระบุ ด้าน พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งด่านสกัดว่า จำนวนด่าน หรือจุดตั้งด่าน อาจจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามสถานการณ์ และอาจจะมีการย้ายจุดเพื่อความเหมาะสมได้ “เมื่อท่านเจอจุดตรวจ กรุณาจอดรถ หมุนกระจกลง เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่า ท่านได้ดำเนินการตามที่แนะนำหรือเปล่า ใส่หน้ากากอนามัยหรือไม่ ผู้โดยสารนั่งอยู่ในรถเบียดกันแน่นหรือเปล่า อยู่ในระยะห่างที่เหมาะสมหรือไม่ จะมีการตรวจวัดอุหภูมิ ถ้าเจ้าหน้าที่ขอให้ท่านลงรถ เพื่อจะตรวจสอบได้ง่ายขึ้น ฃก็ขอให้ความร่วมมือ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะตรวจไข้ ถ้าเป็นคนในพื้นที่เช่นจะเข้าจังหวัดเชียงใหม่ แล้วมีภูมิลำเนาในจังหวัดเชียงใหม่ อุณหภูมิเกิน 37.5 เจ้าหน้าที่จะดำเนินการนำตัวท่านเข้าสู่กระบวนการของการคัดกรองต่อ” พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว “ตั้งแต่เมื่อคืน 00.01 น. ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข ขนส่ง อาสาสมัคร และประชาชนจิตอาสาได้ร่วมทำงานอย่างเข้มข้น มาตรการแรกคือการตั้งจุดคัดกรอง ขณะนี้คือ 357 จุดใน กทม 7 จุด คาดว่าในวันพรุ่งนี้เส้นทางเข้าออก กรุงเทพฯ น่าจะมีการเพิ่มด่านตรวจอีก 5 จุด คือ ถนนเพชรเกษม บางนา-ตราด ด่วนบูรพาวิถี ถนนวิภาวดีรังสิต ดอนเมืองโทลล์เวย์” พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวเพิ่มเติม อ้างอิง : https://www.youtube.com/watch?v=n1mR09pjXHU&t=2801s บขส. งดจำหน่ายตั๋วรถถึงสิ้นเมษา บินไทย หยุดกระพือปีก หลังการประกาศใช้มาตรการเข้มงวดของรัฐบาล หน่วยงานขนส่งหลายหน่วยงานได้ออกมาตรการเพื่อให้สอดคล้องด้วย โดยนายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า บขส. ได้ดำเนินมาตรการเว้นระยะห่างของที่นั่งบนรถโดยสาร สถานีขนส่ง และจำกัดการเดินทางของผู้โดยสาร ปัจจุบัน ตั๋วโดยสารรถ บขส. เต็มทุกที่นั่งแล้ว ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม- 30 เมษายน 2563 และไม่สามารถจัดรถเสริมให้ได้ ดังนั้น ผู้โดยสารที่จองตั๋วล่วงหน้าจะสามารถเดินทางได้ปกติ แต่ผู้โดยสารที่ยังไม่ได้จองตั๋วให้งดเดินทางมายังสถานีขนส่ง ก่อนหน้านี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ได้ประกาศผ่านเฟซบุ๊คแฟนเพจว่า ได้ทยอยยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศทุกเที่ยว โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการยกเลิกเที่ยวบิน 2.2 หมื่นเที่ยวจนถึงเดือนตุลาคม 2563 ส่วนการบินในประเทศจะให้สายการบินไทยสไมล์ดำเนินการบินแทน อ้างอิง : https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2090037 https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/872247 สำหรับประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงข่าวว่า พบผู้ป่วยโควิด-19 จากประเทศจีน 1 ราย โดยได้ส่งเข้าดำเนินการรักษาจนหายแล้ว ต่อมาวันที่ 17 มกราคม 2563 พบผู้ป่วยรายที่ 2 วันที่ 22 มกราคม 2563 เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยรายที่ 3 และ 4 โดยหนึ่งในนั้นเป็นชาวไทย จากจังหวัดนครปฐม ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และหลังจากนั้นได้พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นตามลำดับ กระทั่งปัจจุบัน ผ่านเวลามากว่า 2 เดือนไทยพบผู้ป่วยแล้ว 1,045 ราย ปัจจุบัน ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 474,204 คน มีผู้ติดเชื้ออย่างน้อยใน 170 ประเทศ มีผู้เสียชีวิต 21,353 คน รักษาหายแล้ว 115,003 คน ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ อิตาลี สเปน จีน อิหร่าน และฝรั่งเศส เป็นต้น ประเทศที่มีผู้ป่วยมากที่สุดคือ จีน อิตาลี สหรัฐอเมริกา สเปน เยอรมนี และประเทศอื่น ๆ ตามลำดับ โดยองค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้การแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่ในขั้นระบาดใหญ่ หรือ Pandemic แล้ว อ้างอิง : https://gisanddata.maps.arcgis.com/apps/opsdashboard/index.html#/bda7594740fd40299423467b48e9ecf6 #TheIsaander #Isaan #Isaannews #อีสานเด้อ #อีสาน #ข่าวอีสาน #ดิอีสานเด้อ #ไวรัส #โคโรนา #สายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #ไทย #นายก #เอาอยู่ #Covid19 #โควิด — at ไทยรู้สู้โควิด.
top of page
bottom of page
Comments