top of page
  • Writer's pictureThe Isaander

เรือนจำร่วมตำรวจ หาตัวคนทำร้ายนักโทษเสียชีวิตในคุกศรีสะเกษ


ไทยรัฐ รายงานว่า การเสียชีวิตของ นายพรหมปัญญา เกษหอม ผู้ต้องขัง “คดีเมาแล้วขับ” ในสถานกักขังจังหวัดศรีสะเกษ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ญาติไม่ปักใจเชื่อสาเหตุการเสียชีวิต เพราะตามร่างกายผู้ต้องขังเต็มไปด้วยบาดแผล มีรอยฟกช้ำ จึงเข้าร้องเรียนให้ทางกรมราชทัณฑ์ชี้แจงสาเหตุของการเสียชีวิต


---


วันที่ 15 เม.ย. นายพรหมปัญญาถูกตำรวจจับกุมข้อหา “เมาแล้วขับ” ถูกนำตัวส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดศรีสะเกษ ศาลสั่งปรับข้อหา “เมาแล้วขับ” เป็นเงิน 6,000 บาท ครอบครัวยากจนไม่มีเงินเสียค่าปรับ ถูกศาลสั่งติดคุกแทนค่าปรับ


เช้าวันที่ 18 เม.ย. นางสุรินทร์ เกษหอม มารดาของนายพรหมปัญญารับแจ้งจาก สภ.ปรือใหญ่ จ.ศรีสะเกษ ว่า นายพรหมปัญญา บุตรชายเสียชีวิตขณะถูกคุมขังอยู่ในสถานกักขัง จ.ศรีสะเกษ ทางเรือนจำอ้างว่านายพรหมปัญญาหลับพลัดตกจากขอบอ่างที่ปีนขึ้นไปนอนช็อกหมดสติเสียชีวิตขณะที่นำส่งโรงพยาบาล


----


นางสุรินทร์และญาติพี่น้องไม่เชื่อว่าลูกชายช็อกเสียชีวิต เพราะสภาพศพมีความผิดปกติหลายแห่งทั้งตามลำตัวและใบหน้า ไม่ใช่บาดแผลที่หกล้มหรือพลัดตกจากที่สูง และเชื่อว่าไม่มีคู่อริที่อยู่ในคุกจนทำให้มีเหตุทะเลาะวิวาทกัน เพราะลูกชายไม่เคยมีเรื่องกับใคร ปกติเป็นคนดี ขยันทำมาหากิน เป็นกำลังหลักของครอบครัว


ใบรับรองแพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษระบุสาเหตุที่เสียชีวิตว่า ศีรษะผู้ตายได้รับอันตรายรุนแรงและบาดแผลฟกช้ำตามร่างกาย ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม 4 ประเด็น คือ 1.ขอให้ตั้งกรรมการจากส่วนกลางร่วมตรวจสอบสาเหตุการตายที่แท้จริง 2.ขอให้เอาผิดเจ้าหน้าที่เรือนจำเกี่ยวข้องทุกระดับชั้น 3.ขอให้เร่งรัดจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยา เนื่องจากครอบครัวไม่เชื่อว่าผู้ตายหกล้มเสียชีวิต แต่น่าจะเป็นเหยื่อในคดีอาญา 4.ขอให้กระทรวงยุติธรรมตั้งงบประมาณเพื่อช่วยเหลือญาติในการต่อสู้คดีกับเจ้าหน้าที่


---


พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ลงมาร่วมสืบสวนคดีด้วยตนเอง ที่เกิดเหตุห้องที่ใช้กักขังมีขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 10 เมตร มีผู้ต้องกักขังล้นห้องอยู่ถึง 236 คน มีความแออัดมาก แต่ พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ ไม่เชื่อว่าจะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุลื่นล้มในห้องน้ำ เชื่อว่าถูกเพื่อนผู้ต้องกักขังทำร้ายมากกว่า ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับผู้สูญเสียเต็มที่ ไม่ปกป้องช่วยเหลือ แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและพร้อมจะรับผิดชอบหากพบว่าเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้อง


มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มอบให้ ผบ.เรือนจำกลางจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และมีคำสั่งย้าย นายสมบูรณ์ พุทธชาติ ผบ.เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ และหัวหน้าสถานกักขังเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษไปประจำกรม เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมระหว่างการตรวจสอบ


เป็นตัวอย่างให้เรือนจำอื่นๆเพิ่มความระมัดระวังไม่ให้เกิดข้อบกพร่องขึ้นมาอีก


---


พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ ประสานกับ พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จ.ศรีสะเกษ เปิดเรือนจำให้ตำรวจเข้าไปสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิด ตำรวจเรียกพยานซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่สถานกักขังและผู้ต้องกักขังที่อยู่ร่วมห้องกับผู้ตาย มีพยานยืนยันตัวผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายผู้ตายจริง ก่อนขอศาลอนุมัติหมายจับ นายสามารถ มีคุณ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่ทำร้ายในข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย”


พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ ประสานเยียวยาเงินชดเชยญาติผู้เสียชีวิตตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา และในส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้ว่ายังไม่พบเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มีส่วนร่วมในการกระทำผิด แต่ถือว่าน่าจะต้องมีข้อบกพร่อง ประมาทเลินเล่อ ซึ่งจะต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง


ส่วนในอนาคตจะนำเอาบทเรียนไปปรับปรุงแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีก


คงเป็นการบ้านสำคัญของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งจะต้องกำหนดมาตรการดูแลผู้ต้องขัง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่รัฐบาลให้กวดขันจับกุมผู้กระทำผิดทั้ง “เมาแล้วขับ” หรือความผิดอื่นๆ จะมีผู้ต้องขังจำนวนมาก จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ความสูญเสียที่ไม่น่าจะปล่อยให้เกิดขึ้นมาอีก


---


พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวกับ “ทีมข่าวอาชญากรรม” ว่า “ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต หลังที่ทราบข่าวได้เร่งรัดให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และเร่งสืบสวนสอบสวนคดีทำความจริงให้ปรากฏเร่งด่วนที่สุด ขอขอบคุณตำรวจท้องที่ที่ทำงานอย่างเข้มแข็งและรวดเร็ว สามารถหาตัวผู้กระทำผิดและขออนุมัติต่อศาลให้ออกหมายจับมาดำเนินคดีได้ ถือว่าคลี่คลายคดีไปได้ในระดับหนึ่ง ต่อไปคงเป็นการสืบสวนขยายผลว่ามีใครเป็นผู้ร่วมกระทำผิดอีกบ้าง กรมราชทัณฑ์พร้อมให้ความร่วมมือ ในชั้นนี้ยังไม่พบว่ามีผู้คุมหรือเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ร่วมกระทำผิด แต่น่าจะมีข้อบกพร่องประมาทเลินเล่อหรือปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุทำร้ายกันในห้องกักขังถึงตาย จะรอผลตรวจสอบข้อเท็จจริงจาก ผบ.เรือนจำกลางอุบลราชธานี ประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง”


“ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดให้มารับคำร้องของแม่ผู้ตาย เพื่อขอรับเงินชดเชยเยียวยาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย พร้อมกับได้กล่าวคำขอโทษต่อแม่ผู้ตาย โดยจะกลับไปดูระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางเยียวยาครอบครัวของผู้ตายเพิ่มเติม นอกเหนือจากที่ได้มอบเงินส่วนตัวให้ไปส่วนหนึ่งแล้ว คดีนี้ได้แสดงให้เห็นจุดยืนและความจริงจังของกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ ที่มุ่งเน้นให้การดูแลแก้ไข และพัฒนาปรับปรุงพฤตินิสัยของผู้ต้องราชทัณฑ์ทุกประเภทให้กลับคืนเป็นคนดีของสังคม โดยไม่มีการใช้มาตรการทารุณโหดร้ายผิดกฎหมาย ส่วนข้อจำกัดในเรื่อง “คนล้นคุก” และความแออัดภายในเรือนจำ ที่มักจะเป็นสาเหตุให้ผู้ต้องขังกระทบ กระทั่งกันจนเกิดเหตุอยู่เสมอนั้น จะหารือกันหลายฝ่ายทั้งในและนอกกระบวนการยุติธรรมอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก”


นับว่าเป็นการลงมาทำหน้าที่ของผู้นำสูงสุดของกรมราชทัณฑ์ ลงรายละเอียดทางคดี เปิดเรือนจำให้ตำรวจตรวจสอบความจริง ทำให้ได้หลักฐานดำเนินคดีผู้ที่ก่อเหตุได้รวดเร็ว สร้างความพอใจให้กับญาติผู้สูญเสีย


เป็นอีกยุคของ “กรมราชทัณฑ์” ทุกเหตุการณ์ที่เกิดในเรือนจำสามารถชี้แจงสังคมได้ตลอดไม่ปล่อยให้เรือนจำเป็นเสมือน “แดนสนธยา” ที่คาใจสังคมเหมือนในยุคก่อนๆ.


---


#TheIsaander #Isaan #Isaannews #อีสานเด้อ #อีสาน #ข่าวอีสาน #ดิอีสานเด้อ #ศรีสะเกษ #สีเกด #คุก #ย้าย #เรือนจำ #ตายในคุก #ผู้ต้องกัก #ทำร้ายร่างกาย

23 views0 comments
bottom of page