มติชนรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันอังคารนี้ กระทรวงกลาโหมมีวาระที่จะเสนอให้ ครม. พิจารณา ในหมวดการเมือง การต่างประเทศ และความมั่นคง “เรื่องการขออนุมัติให้กองทัพเรือดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่สนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำระยะที่ 1 จำนวน 1 ลำ” ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์-วิจารณ์บนอินเตอร์เน็ตว่า เป็นการกระทำที่ไม่ถูกเวลา เนื่องจากเห็นว่า การขออนุมัติจัดซื้อยุทโธปกรณ์ ขณะทั่วโลกกำลังเผชิญหน้ากับภาวะการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ไม่เหมาะสม จนเกิด #กูสั่งให้มึงเลิกซื้ออาวุธ บนทวิตเตอร์ ทำให้ในเวลาต่อมา ประชาชาติธุรกิจจะรายงานว่า “กระทรวงกลาโหมได้ขอถอนวาระดังกล่าวออกไป” และตามมาด้วยการชี้แจงของ พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ โฆษกกองทัพเรือ ซึ่งระบุว่า วาระที่กระทรวงกลาโหมได้ขออนุมัติกับ ครม. นั้น มิใช้การขออนุมัติต่อเรือยกพลขึ้นบก แต่เป็นการที่ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยวาการกระทรวงกลาโหม ขออนุมัติให้กองทัพเรือดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโครงการจัดหาเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ เช่น การส่งคณะกรรมการไปตรวจแบบเรือ, การเตรียมส่งทหารไปฝึก เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย พล.ร.ท.ประชาชาติ ยังระบุอีกว่า “สัญญาการต่อเรือแอลดีพี ยกพลขึ้นบกลำใหม่จากจีน เพื่อนำมาเป็นเรือพี่เลี้ยงให้กับเรือดำน้ำนั้น กองทัพเรือได้ลงนามกับจีนไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 โดยมูลค่าสัญญาประมาณ 6,100 ล้านบาท” ซึ่งโครงการต่อเรือแอลดีพีนี้ มี พล.ร.อ.ช่อฉัตร กระเทศ รองผู้บัญชาการกองทัพเรือ(ขณะนั้น) เป็นผู้ลงนาม โดยเรือแอลดีพีนี้ นอกจากจะใช้สำหรับเป็นพี่เลี้ยงให้เริือดำน้ำแล้ว ยังใช้เพื่อการบรรเทาสาธารณภัย และเสริมภารกิจของเรือหลวงอ่างทอง ด้วย ทั้งนี้ พ.ร.บ. งบประมาณประจำปี 2563 มูลค่า 3.2 ล้านบาท มีงบประมาณด้าน ยุทธศาสตร์ความมั่นคง 428,219.2 ล้านบาท และ งบกระทรวงกลาโหม 233,353.4 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงบประมาณของปี 62 ประมาณ 6,226.8 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบของ กองทัพบก 113,677.4 ล้านบาท กองทัพเรือ 47,277.9 ล้านบาท และ กองทัพอากาศ 42,882.8 ล้านบาท #TheIsaander #Isaan #Isaannews #อีสานเด้อ #อีสาน #ข่าวอีสาน #แอมเนสตี้ #ทหาร #เรือ #ยกพล #ขึ้นบก #ถอน #ถอย - ภาพประกอบ : Michael Afonso/Unsplash — at กองบัญชาการกองทัพเรือ.