top of page
  • Writer's pictureThe Isaander

อีสานเฮ็ดหนัง #3 พันนา พาอีสานสู้


วันที่ 15 พฤษภาคม- 27 มิถุนายน 2562 โรงภาพยนตร์ศรีศาลายา หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) จะจัดโปรแกรมหนังอีสานให้คนดูฟรี


วันพุธที่ 15 พฤษภาคม เวลา 17.30 น. ราชินีดอกหญ้า

วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม เวลา 17.30 น. สิ้นเมษาฝนตกมาปรอยปรอย

วันพุธที่ 29 พฤษภาคม เวลา 17.30 น. ฮักนะสารคาม

วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม เวลา 17.30 น. ฮักมั่น In My Hometown

วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน เวลา 13.00 น. มนต์รักแม่น้ำมูล DCP

วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน เวลา 15.00 น. ครูบ้านนอก

วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน เวลา 17.30 น. เกิดมาลุย

วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน เวลา 13.00 น. ทุ่งกุลาร้องไห้

วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน เวลา 15.00 น. แหยมยโสธร

วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน เวลา 13.00 น. ผู้บ่าวไทบ้าน E-SAN INDY

วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน เวลา 15.00 น. ไทบ้านเดอะซีรีส์

วันอังคารที่ 18 มิถุนายน เวลา 17.30 น. ฅนลูกทุ่ง

วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน เวลา 17.30 น. ก่องข้าวน้อยฆ่าแม่


---


อ่าน อีสานเฮ็ดหนัง #1 หนังอีสานมายังไง และ #2 หนังอีสานบูมยุคแรก ได้ที่ www.facebook.com/theisaander และ www.theisaander.com


---


หลังจาก กระแสหนังของดวงกมล มหรสพ เริ่มซบเซา มีคนทำหนังอีสานที่โดดเด่น แม้จะไม่ได้เน้นความเป็นอีสานโดยเฉพาะได้ฉายแวว คนคนนั้นคือ พันนา ฤทธิไกร สตันท์แมน คนขอนแจ่น เหมืองหมอแคน แดนดอกคูณ ศูนย์รวมผ้าไหม


ด้วยความที่ พันนามี บรู๊ซ ลี นักบู๊ชาวฮ่องกงเป็นขวัญใจ เขาตัดสินใจเข้าเรียนที่วิทยาลัยมหาสารคาม เพื่อให้เข้าใจพื้นฐานในการใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ถูกต้อง เมื่อเรียนจบ เขาเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อสมัครเป็นทีมสตันท์ของ คมน์ อรรฆเดช ผู้กำกับภาพยนตร์บู๊ชื่อดังในเวลานั้น


พันนา เริ่มต้นอาชีพสตันท์ในวงการภาพยนตร์ด้วยการได้รับเลือกให้แสดงแทนนางเอกคือ ม.ล. สุรีวัลย์ สุริยง กับฉากเสี่ยงตายสู้กับผู้ร้ายบนหลังคารถไฟ ในเรื่อง ไอ้ผาง ร.ฟ.ท.


ขณะเดียวกัน เขากลับไปตั้งทีมงานของตนเองที่ขอนแก่นในชื่อ “กลุ่มสตันท์แมน พี พีเอ็น”


ปี 2529 พันนา ขายที่นา นำเงินมารวมกับรายได้จากการถูกเตะ ต่อย ตบ ตี สร้าง “เพชรพันนา โปรดักชั่น” ทำหนังชื่อ “เกิดมาลุย” โดยให้ ประพนธ์ เพชรอิน เพื่อนสนิท และหุ้นส่วนเพชรพันนา เป็นผู้กำกับ (หอภาพยนตร์จะนำมาฉายในเวลา 17.30 น. 6 มิถุนายน 2562)


ในการทำเกิดมาลุย พันนาได้ร่วมแรงร่วมใจกับญาติมิตร อาศัยเพียงความมุ่งมั่น บวกกับพื้นฐานภาพยนตร์ที่มีอยู่ไม่มากนักในตอนนั้นมาลุย


“เอาญาติ พี่น้อง รวมๆกันมาเป็นนักแสดง แม้ในเรื่องจะไม่ได้พูดภาษาอีสาน แต่การเอาคนรู้จักมาแสดงในหนังที่เนื้อเรื่องเกิดในอีสาน และถ่ายทำที่อีสานเกือบทั้งหมด เป็นมิติใหม่ เป็นการเล่าอีสานโดยไม่ต้องนำเสนอความเป็นอีสาน ไม่ต้องเพื่อชีวิตด้วยซ้ำ และเรียกว่า เกิดมาลุย กลายเป็นต้นแบบ จนเกิดหนังบู๊ต่างจังหวัด หรือหนังเกรดบี ตามมาอีกหลายเรื่องด้วย” พุทธพงษ์ อธิบาย


นับแต่นั้นมา พันนา ตั้งปณิธานที่จะพัฒนาคุณภาพของหนังบู๊ในแบบของตนให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม เขาไม่เคยหยุดเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ทั้งในด้านการแสดงและการสร้างภาพยนตร์ ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี


เขาผ่านทั้งช่วงตกต่ำ และรุ่งโรจน์ของวงการภาพยนตร์ไทย มีผลงานการแสดงหนังร่วมร้อยเรื่อง และมีส่วนสำคัญในการสร้างภาพยนตร์บู๊เรื่องสำคัญของไทยหลายต่อหลายเรื่อง ตั้งแต่ยุคที่เขาทำหนังเพื่อขายสายหนังในต่างจังหวัด จนมาถึงยุคที่ทำร่วมกับสตูดิโอ


“สำหรับอีสานแล้ว มีหนังอีกเรื่องของพันนาที่น่าสนใจ คือ ฅนลูกทุ่ง ปี 2539 (หอภาพยนตร์จะนำมาฉายใน เวลา 17.30 น. วันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2562) ซึ่งพันนา นั่งแท่นผู้กำกับด้วยตัวเอง แสดงนำเอง แต่กลับเป็นหนังที่มีฉากบู๊น้อยมาก อีกทั้งยังมีฉากที่พันนาร้องเพลงซะด้วย หนังนำเสนอความเป็นลูกทุ่ง มีตัวละครพูดภาษาอีสาน พูดได้ว่านี่คือ หนังลูกอีสานยุคใหม่ ที่พยายามเล่าสภาพความเป็นอยู่ของคนอีสาน” พี่วิว เว้าว่าซั่น


แม้จะผ่านการเป็นนักแสดงมาอย่างโชกโชน แต่ในยุคนี้ หลายคนน่าจะจดจำพันนาในฐานะผู้ผลักดันปลุกปั้น จา พนม หรือ โทนี่ จา นักบู๊ไทย ที่ไปไกลถึงฮอลลีวูด เสียมากกว่า ฐานะ ผู้กำกับ หรือนักแสดง


น่าเสียดายที่ พันนา ต้องจากไปในวัยเพียง 53 ปี ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดจากการเป็นโรคตับ และไต เมื่อปี 2557


---


#TheIsaander #Isaan #Isaannews #อีสานเด้อ #อีสาน #ข่าวอีสาน #ดิอีสานเด้อ #หนัง #ภาพยนตร#หนังอีสาน #หอภาพยนตร#พันนา #โรงหนัง #เกิดมาลุย #ไม่ใช่ #เกิดมาคุย #ขอนแก่น #บู๊ #ก็สู้คน

57 views0 comments
bottom of page