top of page

โรงหนังสะหวันนะเขต ลมหายใจที่กลับมาเต้นเร่าอีกครั้งใน Savan Fun Fest

Writer's picture: The Isaander The Isaander


ในแขวงที่ว่ากันว่าใหญ่ที่สุดในประเทศ หากไม่นับแขวงเวียงจันทร์ สะหวันนะเขต-มีเรื่องราวให้พูดถึงมากมาย ไม่เพียงแต่ประวัติศาสตร์ของสะหวันนะเขต ที่สอดรับเรื่องราวของประชาชาติลาวตั้งแต่ยุคปฏิวัติประชาชน โดยเฉพาะเมืองเอก นั่นคือ เมืองไกรสร พรมวิหาร ที่มีชื่อตามอดีตประธานประเทศ นอกจากนี้สะหวันนะเขตยังมี อนุสาวรีย์ของ หนูฮัก พูมสะหวัน อดีตประธานประเทศ คนที่ 3 ต่อจากไกรสร พรมวิหาร อีกด้วย


.


มากไปกว่านั้นสะหวันนะเขตยังเป็นย่านที่อวลไปด้วยความเก่าแก่ ในเมืองที่มีความหลังและสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล มีคนท้องถิ่นกลุ่มหนึ่งพยายามรื้อฟื้นความเรืองรองของสะหวันนะเขต ผ่านเทศกาลที่ใช้ชื่อว่า Savan Fun Fest การฉายหนัง การออกร้านรวงขายสินค้าเฉพาะถิ่น การแสดงจากศิลปินต่างๆ ซึ่งเป็นการย้อนเวลาไปชมเมืองแม่น้ำโขงที่ทรงเสน่หา และบอกถึงวันเวลาความทรงจำดีๆของที่แห่งนี้


.


ต้นขั้วความคิดมาจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เริ่มมีความคิดร่วมกันว่า อยากจะหันมาอนุรักษ์เมืองแห่งนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวไปพร้อมกับการเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับคนในพื้นที่และคนนอกพื้นที่ เริ่มต้นจากการจัดทีมสำรวจอาคารเก่าในพื้นที่ย่านเมืองเก่าสะหวันนะเขตขนาด 55.4 เฮกตาร์ (หรือประมาณ 0.554 ตารางกิโลเมตร) ซึ่งก็พบว่า พื้นที่แหล่งนี้มีอาคารเก่ารวมทั้งสิ้น 117 หลัง


.

ในอาคารเก่าทั้ง 117 หลังนี้ แบ่งออกเป็น 7 ประเภท ได้แก่ (1) แบบสะหวันนะเขตดั้งเดิม ปัจจุบันมีอยู่หลังเดียวนั้นก็คือบ้านพักของท่านไกสอน พมวิหาน (2) Laos-Colonial บ้านเรือนจะเป็นแบบยกใต้ถุนสูง และมีฟาซาดแบบอาณานิคมตะวันตก (3) บ้านเดี่ยวแบบ Single House มีอยู่เป็นจำนวนมาก ราวๆ 90 หลังจาก 117 หลัง สมัยก่อนอาคารในลักษณะนี้เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าอาณานิคม/เจ้าขุนมูลนายเก่า ปัจจุบัน อาคารส่วนใหญ่ยังสามารถใช้งานได้ (4) อาคารแบบ Colonial มีลักษณะเป็นห้องแถว สร้างโดยคนจีนและลาวที่อพยพเข้ามาเป็นแรงงานในสมัยก่อน ปัจจุบัน ถูกปรับแต่งเป็นร้านค้า โรงแรม ร้านอาหาร และที่อยู่อาศัย (5) อาคารแบบ Art Deco ที่เป็น Shop House (6) Art Deco ที่เป็น Single House และ (7) อาคารศาสนสถาน เช่น วัด และโบรถ เป็นต้น

.


หนึ่งในผู้เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอาคารเก่าในสะหวันนะเขตเล่าว่า รูปแบบการอนุรักษ์อาคารทั้งหมดแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ (1) อนุรักษ์รูปแบบเก่าให้คงอยู่ (2) เสริมความแข็งแรงให้ตัวอาคาร และ (3) รักษาโครงสร้างแต่เปลี่ยนหน้าที่การใช้งาน ทั้งนี้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ ทีมงานจะนำไปเสนอต่อหน่วยงานกลางที่นครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อนำไปสู่การผลักดันสะหวันนะเขตให้เป็นเมืองท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต


.

เมื่อไปถึงย่านเมืองเก่าแขวงสะหวันนะเขต “คันทะบุลี” เป็นถนนเก่าแก่ที่ควรค่าแก่การเดินทางไปถึง เป็นถนนสายสำคัญที่ทิ้งร่องรอยเมื่อครั้งสะหวันนะเขตอยู่ในยุคสมัยที่รุ่งเรืองที่สุด ถนนสายนี้มี “โรงรูปเงา” (โรงหนัง/โรงภาพยนตร์) ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ถึง 2 แห่ง ได้แก่ (1) โรงรูปเงาลาวจะเรินรามา และ (2) โรงรูปเงาพูมสะหวัน ทั้งสองสร้างขึ้นในระยะเวลาใกล้เคียงกันราวๆ ปี 1960


.

โดยคำว่า “จะเริน” ในชื่อโรงรูปเงาลาวจะเรินรามานั้น แปลว่าความเจริญรุ่งเรืองของยุคสมัย (civilization) รูปแบบทางสถาปัตยกรรมเป็นแบบ art deco มีการใช้ฟาซาดซึ่งเป็นศิลปะอาคารที่แพร่หลายเป็นอย่างมากตะวันตกช่วงปี 1910-1930 เป็นลวดลายเลขาคณิตสมัยยุคโมเดิร์น


.

โรงรูปเงาลาวจะเรินรามา เป็นอาคารปูนสองชั้น ด้านล่างเป็นโถงใหญ่มีจอฉายหนังด้านหน้า ชั้นสองมีชั้นลอย (คาดว่าเป็นที่นั่งชมมหรสพของชนชั้นสูง) และมีลานเต้นรำกลางแจ้ง เป็นต้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นโรงรูปเงาที่มีขนาดใหญ่ที่สุด


.

ปัจจุบันโรงรูปเงาทั้งสองแห่งไม่ได้เปิดให้บริการแล้ว โดยแห่งแรกปิดตัวลงเพราะเกิดเหตุเพลิงไหม้ และแห่งที่สองปิดตัวลงเพราะได้รับความนิยมจากผู้ชมลดลง

.


แม้โรงรูปเงาทั้งสองแห่งจะปิดตัวลงไปแล้ว แต่ในช่วงที่เราเดินทางไปตรงกับเทศกาล Savan Fun Fest พอดี เป็นช่วงที่มีเปิดให้คนทั่วไปสามารถเข้าไปชมภายในตัวอาคารได้ทั้งสองแห่ง สำหรับแห่งแรก แม้อาคารจะมีความเสื่อมโทรมอย่างมาก แต่ก็ยังคงทิ้งร่องรอยให้เห็นว่า ในอดีตโรงรูปแห่งนี้ในเมืองสะหวันนะเขตแห่งนี้มีความรุ่งเรืองมากเพียงใด ส่วนแห่งที่สอง ด้วยสภาพที่ค่อนข้างสมบรูณ์ ทีมงานผู้จัด Savan Fun Fest จึงใช้สถานที่แห่งนี้เปิดฉาย'ละคอน' ' สาละคะดี' รวมถึง'กาตูน' ตลอดเทศกาลระหว่างวันที่ 22-24 พฤศจิกายน 2562


.

เป็นที่น่าสนใจคือ รูปเงาเรื่อง “สะบายดีหลวงพะบาง” (2551) (ภาคต่อคือ สะบายดี 2 ไม่มีคำตอบจาก..ปากเซ) เป็นภาพยนตร์ร่วมทุนระหว่างไทย-ลาว ถ่ายทำในเวียงจันทน์ หลวงพระบาง และจำปาศักดิ์ มีโครงเรื่องเป็นหนังรักโรแมนติก เล่าถึงหนุ่มไทยเชื้อสายลาวที่ต้องเดินทางจากไทยไปทำงานครั้งแรกที่ลาว เขาไม่เคยเดินทางไปลาวสักครั้ง จึงจ้างมัคคุเทศก์สาวลาวนำทาง การนำทางครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกของมัคคุเทศน์สาวคนนี้เช่นกัน ทั้งสองจึงหลงตลอดทาง ฝ่ายชายเริ่มชอบฝ่ายหญิง ส่วนฝ่ายสาวก็พยายามหนีห่าง ฝ่ายชายจึงพยายามพิสูจน์ความรักของเขาให้ฝ่ายหญิงเห็นว่า ความนักของเขาไม่ใช่เรื่องชั่วคราวแบบนักท่องเที่ยวที่มาแปบๆ แล้วจากไป (ตัวอย่างหนัง: https://www.youtube.com/watch?v=laCOkuc2Re8)

.


"สะบายดีหลวงพะบาง" ถูกนำมาฉายในเทศกาล Savan Fun Fest ในช่วงเวลาสำคัญของวัน (prime time) รวม 2 รอบ (ทั้งที่มีหนังไทยจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของผู้คนไทย-ลาว เพราะเหตุใดจึงเลือกหนังเรื่องนี้?) เราลองสอบถามคนลาวที่นั่งชมรูปเงาเลื่องนี้คนหนึ่ง เธอเล่าว่า ชอบหนังโรแมนติก พระเอก (อนันดา) หล่อดี ดูเข้าใจง่าย สบายๆ


.

กระแสความนิยมความบันเทิงไทย (Thai Wind) ได้รับความแพร่หลายในลาว สาเหตุประการหนึ่งอาจเป็นเพราะไทยและลาวมีความใกล้ชิดทางวัฒนธรรม (cultural intimacy) กันในระดับหนึ่ง ส่งผลให้สื่อบันเทิงต่างๆ ของไทย เมื่อถูกนำไปเผยแพร่ในลาว คนลาวดูแล้วเก็ตดูแล้วเข้าใจ จึงเป็นเหตุให้สนใจและหามาดูมารับฟังต่อไปเรื่อยๆ


แม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่การกลับมาชีวิตของโรงรูปเงาในเมืองสะหวันนะเขต ก็ส่งความสุขและรอยยิ้มให้กับผู้ชมอย่างที่ควรจะเป็น อย่างน้อยๆก็ผู้ชมที่ข้ามฟากฝั่งไปจากมุกดาหารเช่นเรานี้แล


#Theisaander #สะหวันนะเขต #ประเทศลาว #SavanFunFest #ที่โรงภาพยนตร์ใกล้บ้านท่าน

465 views0 comments

Commentaires


© 2023 by Glorify. Proudly created with Wix.com

bottom of page