“จ๊ากผู้ได๋บุ๊ เขียนบนอินเตอร์เน็ตว่า ข่อยแม่นเคยเล่นนำทีมซาติไทย 26 นัด โอ้บักห่าขั่ว ข่อยบ่เคยไปเล่นจักกะเทือ เขียนไปได้จังได๋วะ”
ธีรยุทธ จอฟฟรี่ย์ พรหมมายนต์(Geoffrey Prommayon) อดีตแบ็คขวา พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น(PSV Eindhoven) และ วิลเล่ม ทเว(Willem II) สองทีมแกร่งจากดินแดนกัญชาเกือบเสรี ฮอลแลนด์ กล่าวเมื่อถูกถามถึงประสบการณ์ของเขากับทีมชาติบ้านเกิด
ในยุคที่เกมส์ CM (Championship Manager) เริ่มฮิต (ก่อนจะแยกตัวมาเป็น FM-Football Manager ในภายหลัง) แฟนเกมส์น่าจะพอคุ้นตา คุ้นหู ชื่ออ้ายจอฟฟรี่ย์บ้าง เพราะเขาคือ นักฟุตบอลไทยคนเดียวที่สามารถค้นชื่อเจอในเกมส์ แต่ด้วยข้อมูลที่น้อยนิดกระจิดริดปานหำเด็กน้อยในยุคนั้น ทำให้นักฟุตบอลไทยคนนี้เป็นตำนาน ที่ถูกเล่าขานปากต่อปาก มากกว่าจะรู้ข้อเท็จจริงใดๆ
ดังนั้น เมื่อพูดถึงนักฟุตบอลไทยที่ประสบความสำเร็จในยุโรป ชื่อของ วิทยา เลาหกุล ที่เคยเล่นกับแฮร์ธาเบอร์ลิน, เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่เคยไปร่วมทีมฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์, ธีรเทพ วิโนทัย ที่เคยเป็นนักฟุตบอลเยาวชนของคริสตัลพาเลซ หรือธีรศิลป์ แดงดา ที่เคยเล่นกับอัลเมเรีย และเซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้(แต่ไม่ได้เล่น) จะเป็นที่จดจำมากกว่า
เว้าซื่อๆ รายชื่อข้างต้นที่กล่าวมาทั้งหมด หากนับนัดที่ได้เล่นในยุโรปรวมกัน อาจจะไม่เท่ากับที่พี่จอฟเคยเล่นตลอดอาชีพของเขาด้วยซ้ำ ที่ยิ่งไปกว่านั้น อ้ายจอฟยังเป็นนักฟุตบอลไทยคนแรกที่ได้เล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์ และเคยร่วมทีมกับนักฟุตบอลระดับท็อปอย่าง โรนัลโด้(อ้วนบราซิล), โรมาริโอ้, ลุค นิลิซ, เบาเดอไวน์ เซนเด้น, ซามี่ ฮูเปีย, ยาป สตัม, ฟิลิปป์ โคคู และอื่นๆ อีกมากมาแล้ว
“บักโรมาริโอ้ เป็นคนสวย เอ่อ หมายควมว่า เพิ่นสิมาฮอดสนามซ้อมสวยจัก 45 นาทีนี่แหละ แล้วเพิ่นกะสิค่อยๆย่างซ้าๆ คือ อย่างคนขี้คร้านนี่แหละ ซ้อมเสร็จเพิ่นกะสิขึ้นรถเมือเฮือน บ่ค่อยได้เว้านำไผ ส่วนบักหำน้อยโรนัลโด้ แม่นสิอยู่นำทีมหลายกว่า เล่นมุขนำมันได้ มันเล่นมุขนำเฮาได้ เวลาอยู่ในสนาม มันนี่แม่นเก่งบักคัก วิ่งนี่จ้วดจาดอีหลี จ้วดปานเอวพระเอกหนังโป๊พู่นแหละ” อ้ายจอฟ รำลึกถึง สองกองหน้าทีมชาติบราซิลชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1994
หลังจากที่ปล่อยให้แฟนเกมส์ CM ลือกันไปหลายๆเรื่องตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี วันนี้ ดิ อีสานเด้อ ถึงเวลาที่จะได้เปิดเผย เปิดข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับ นักฟุตบอลอุดรฯ ผู้โลดแล่นอย่าสง่างามในเวทียุโรปผู้นี้เสียที
“ตอนอายุ 8 ขวด เอ้ย ขวบ ข่อยย้ายมาอยู่เนเธอร์แลนด์ นำอีแม่ อีพ่อนี่เพิ่นบ่ออยู่นำหมู่ข่อย ตั้งกะข่อยอายุได้ 8 เดือน เพิ่นแม่นทหารอเมริกา เคยมาประจำอยู่เมืองไทย แต่ว่าตอนนั้นเพิ่นต้องย้ายไปเฮ็ดงานบ่อนอื่น ข่อยกะอีแม่ก็เลยบ่ได้พ้อนำเพิ่นอีก ข่อยมาฮู้ทีหลังว่า แท่แล้ว อีพ่อเขียนจดหมายหลายฉบับมาหาหมู่ข่อย แต่ย้อนเพิ่นแม่นคนผิวสี กองทัพเลยบ่ยอมส่งจดหมายต่อให้ อีแม่เลยมีผู้บ่าวใหม่ แล้วกะย้ายมาอยู่เมืองไอนด์โฮเฟ่น ฮอลแลนด์นี่ล่ะ”
อ้ายจอฟ เกิดที่อุดรฯ น่าสิแม่นหาแย้ หากะปอม กินก้อย กินลาบ เกียงัว เกียควยอยู่ ก่อนที่สิได้ย้ายไปอยู่ เมืองฮอลแลนด์นำแม่เพิ่น ตอนอายุ 8 ขวดนั่นแหละ นี่แม่นควมยืนยันจาก ปากเพิ่น
“ทีมแมวมองของพีเอสวี มาชวนข่อยไปเล่นนำเขา ตอนข่อยอายุได้ 11 ปี ก็ไปโลดแหล่ว สินั่งแกว่งหำซือๆเฮ็ดหยังล่ะ”
หลังจากถูกทาบทามเข้าร่วมทีม อ้ายจอฟ กลายเป็นสมาชิกทีมเยาวชนของพีเอสวี เคยฟอร์มดีขนาดได้เล่นให้กับทีมเยาวชนฮอลแลนด์ชุดอายุไม่เกิน 17 ปี และ 19 ปีมาแล้วด้วยซ้ำ เขาใช้เวลาในทีมเยาวชน 7 ปี ก่อนจะทะลึงพรวดเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ของพีเอสวี หนึ่งในทีมมหาอำนาจ(มหาอำนาจบ่เท่าใด๋ แต่ถ้าหลงในอำนาจ เจ้ากะสิบ่มีทางฮอดอุบลเด้อหำ)ลูกหนังของฮอลแลนด์ในปี 1990
ด้วยความที่ยังเป็นบักหำน้อย เขาเลยถืกปล่อยออกจากทีมด้วยสัญญายืมตัวไปร่วมทีม สปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัม(Sparta Rotterdam) และ เอฟซี ไอนด์โฮเฟ่น(FC Eindhoven) ที่สปาร์ต้า เขาบ่ได้ลงเล่นนัดเป็นทางการเลย แต่ที่ไอนด์โฮเฟ่นตลอด 2 ปี เขาเล่นไปกว่า 50 นัด
หลังจากสั่งสมประสบการณ์มาจนแกร่งกล้า แบ็คขวาร่างเล็กขาสั้น แต่ขยันวิ่ง รายนี้ ได้กลับมาสู่ทีมซึ่งชุบเลี้ยงเขามาตั้งแต่ยังเยาว์อีกครั้ง ในปี 1995
การกลับมาพีเอสวีของเขา เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่สตาร์ดาวรุ่งชาวบราซิล ชุดแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1994 อย่างโรนัลโด้ ย้ายเข้ามาร่วมทีมพอดี หนุ่มหัวเกลี้ยงเลี้ยงบอลติดตีนนาม “โรนัลโด้ หลุย นาซาริโอ เดอ ลิม่า” ลงเล่นไป 33 นัด ในปีแรกกับทีม เจ้าของฉายา อิล เฟอนอมิโน่ (บักปรากฎการณ์) ได้แสดงให้เห็นว่า ฉายานั้นบ่ได้มาเดาๆ จัดการยิงไปถึง 30 ประตู ขณะที่มีอายุเพียงแค่ 18 ปี
ด้านอ้ายจอฟ ชีวิตที่พีเอสวีบ่ได้สวยหรูปานใด๋ ยังบ่ได้เป็นตัวหลักของทีมอย่างที่หวัง เขายังคงต้องสลับลุกบ้าง วิ่งบ้าง บนม้านั่งสำรอง และเพื่อความสม่ำเสมอในการลงเล่น เขาจึงตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมที่ชื่อเสียงน้อยกว่าอย่าง วิลเล่ม ทเว
หากเว้าตามเนื้อผ้าแล้ว วิลเล่ม ทเว แม่นทีมที่อ้ายจอฟประสบความสำเร็จในอาชีพนักฟุตบอลของเขาหลายที่สุด เขาลงเล่นไปกว่าหนึ่งร้อยนัด ยึดครองพื้นที่ฝั่งขวาของแนวรับได้อย่างเหนียวแน่น พร้อมด้วยเสื้อหมายเลข 2 การันตีความเป็นตัวเลือกอันดับต้นของทีม
หลังจาก 5 ปีในสีเสื้อน้ำเงินแดงขาวของวิลเล่ม คุณธีรยุทธ กลับภูมิลำเนาของตนเองร่วมทีมเอฟซี ไอนด์โฮเฟ่นอีกครั้ง ด้วยหวังจะจบชีวิตนักฟุตบอลอย่างเก๋ๆ แต่เรื่องราวกลับบ่ค่อยเก๋ปานใด๋ เขาเสียเวลาในอาชีพของตัวเองไปกับการต่อสู้คดีในศาล และต้องติดคุกติดตาราง เพราะพัวพันกับคดีฟอกเงินที่เกี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติด คดีซึ่งเขาเองอ้างว่า ไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลย เป็นฟามโชคร้ายคล้ายเคสของท่านธรรมนัสอีหลี
“ข่อยบ่ฮู้ บ่หยังจักอย่าง ตอนนั้นแม่น ข่อยมีผู้สาวคนนึงเนาะ เขาขอให้ข่อยไปแลกเงินให้แหน่ ข่อยก็ไป บ่ปากบ่หยัง แม่นความซั่วของข่อยเอง สุดท้ายข่อยถืกจับ ย้อนเงิน 3 หมื่นยูโรที่เขาขอให้ข่อยไปแลกแม่นเงินจากกาขายยาเสพติด ซวยอีหลี อีห่าเอ้ย”
ตอนที่ถูกจับ อ้ายจอฟยังเป็นนักเตะของไอนด์โฮเฟ่น ทีมไม่ได้ทอดทิ้งเขาไป แม้เขาจะต้องคดี แต่เมื่อเขาได้กลับมาสู่ทีม กองเชียร์กลับเรียกเขาว่า “ราชายาเสพติด” ซึ่งทำให้เขาไม่สบายใจนัก ด้วยเป็นบั้นปลายของชีวิต บวกกับปัญหาชีวิต เขาจึงตัดสินใจทิ้งอาชีพนักฟุตบอลในวัยเพียง 33 ปี หันไปทำงานในบริษัทรถเช่า กลายเป็นคนขับรถ แทนที่จะเป็นคนเขี่ยบอลอย่างที่เคยๆ (ความจริงปัจจุบัน ในวัย 47 ปีเขายังคงเล่นคุดบอล และเป็นโค้ชของทีมสมัครเล่นฮอลแลนด์อยู่เด้)
“ข่อยมักอยู่เด้ ขับรถ บรื้นๆ หม่วนกุ๊บ”
และแล้ว แบ็คขวาผิวสีเข้ม ตัวไม่สูง ที่เคยวิ่งรวดเร็วบนกราบขวาของสนาม ก็ปิดตำนานของตัวเอง ฮอดจุดนี้ เฮาสามารถเอิ่นได้ว่า ลาวแม่นหนึ่งในนักเตะไทยที่อาจจะทำให้คุณภูมิใจ และอาจสิแม่น กองหลังที่ดีที่สุด ในจุดที่ประเทศไทยบ่เคยมีกะได้
คำสัมภาษณ์ทั้งหมดเป็นกาถอดความจาก บทสัมภาษณ์ในวัย 46 ปีของ อ้ายธีรยุทธ โดยสำนักข่าว Vice https://www.vice.com/…/psv-de-bajes-en-spoorloos-het-leven-… ใส่ความอีสานและคำสบถ เพื่อความม่วนในการอ่านซือๆ บ่แม่นคำเว้าแท้ๆทั้งหมด
ข้อมูลอีกหลายส่วนแม่นตุ้มโฮมจากอินเตอร์เน็ตเด้อพี่น้อง
Comentários