top of page
  • Writer's pictureThe Isaander

ย้อนหยังเฮาจึงต้องย่านลุงตู่?


แด่เย็นวันศุกร์ และ การแถลงนโยบายในฐานะ นายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งครั้งแรก


ย้อนหยังจึงย่านลุงตู่?


“กูจะติดคุกก็วันนี้แหละ”, “จะติดคุกไหมเนี่ย”, “โดนเรียกปรับทัศนคติแน่เลย” 

ผมได้ยินคำพูดทำนองนี้จาก ปากวัยรุ่น หรือวัยกลางคน หลายคน ที่เข้าไปถ่ายภาพกับป้ายลุงตู่ด้วยท่าทางประหลาด หรืออย่างน้อยที่สุดแค่ในอาการไม่สำรวม ในงานวันเด็กที่ทำเนียบรัฐบาล ปี 2561



ลุงตู่เป็นแค่นายกรัฐมนตรี เป็นแค่หัวหน้าคณะทหารที่ทำรัฐประหารเท่านั้นเอง ไม่ได้มีกฎหมายพิเศษใดๆคุ้มครองเขา


(ในตอนนั้น ปี 2561) มีแค่ ม.44 ไว้ออกกฎหมายเอง ม.48 ไว้แก้ความผิดสิ่งที่ทำ ทั้งสอง ม. นี้อยู่ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 57 และ ม.279 ของรัฐธรรมนูญ 60 ก็มีไว้แค่นิรโทษกรรมสิ่งที่ทำในนามคณะรัฐประหาร


ความกลัวเป็นสัญชาตญาณของความอยู่รอด เป็น "ความ" ที่สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องมี ความกลัวส่วนหนึ่งถูกสร้างและส่งต่อทางพันธุกรรม ขณะที่ความกลัวอีกส่วนถูกสร้างจากประสบการณ์



ความกลัวตายอาจเป็นสัญชาตญาณ ขณะที่ความกลัวผี อาจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากฟังประสบการณ์สยองขวัญในรายการของพี่ป๋อง กพล(และพี่แจ็ค สายสิญจน์)


ความกลัวมีพัฒนาการคล้ายกับ ความคิดสร้างสรรค์


นักวิทยาศาสตร์พบว่า ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์พัฒนาได้ดีที่สุดก่อนอายุ 6 ปี หลังจากนั้นประสบการณ์จะขัดขวางพัฒนาการด้านนี้



ความไม่กลัวเกิดมาพร้อมกับเรา


แต่เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น เคยเห็นคนโดนเรียกไปปรับทัศนคติ โดนลงโทษด้วยกฎหมายประหลาด โดนนำตัวขึ้นศาลเพียงเพราะเรียกกันออกมายืนเฉยๆ ถูกจับเพียงเพราะมีท่าทีกระด้างกระเดื่องต่อผู้นำ


เมื่อรู้ว่าหลังการยึดอำนาจ มีคนถูกเรียกรายงานตัวหรือมีเจ้าหน้าที่เข้าเยี่ยมบ้านอย่างน้อย 1,349 ราย ถูกจับกุมอย่างน้อย 625 คน มีคนถูกทุบตีในที่สาธารณะ แต่เจ้าหน้าที่ยังหาคนคนร้ายไม่ได้



(หลังสิ้นยุค คสช. นักกฎหมายคนเก่งแห่งรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ทำนองว่า คสช. แล้วก็จริง แต่อาจมอบหน้าที่ปรับทัศนะบางอย่างของชาวประชาให้กับ กอ.รมน.)


มีคนถูกตั้งข้อหามาตรา 112 หมิ่นเบื้องสูง อย่างน้อย 99 คน ถูกตั้งข้อหามาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น อย่างน้อย 117 คน และมีกิจกรรมเกี่ยวกับเสรีภาพถูกปิดกั้น-แทรกแซงกว่า 100 ครั้ง มีผู้ที่รวมตัวชุมนุม ถูกตั้งข้อหาอย่างน้อย 421 คน และมีคนไม่น้อยถูกขึ้นศาลทหารแทนที่จะเป็นศาลปกติ


เมื่อเจอประสบการณ์เช่นนี้ จากคนที่ไม่เคยกลัว ก็กลายเป็นกลัวได้ไม่แปลก จากสิ่งที่ไม่น่ากลัวก็ดูน่ากลัวขึ้นมา


แต่ภาพถ่ายชุดนี้ อาจอนุมานได้ว่า "เด็กๆไม่กลัวลุงตู่"




อาจเพราะ เด็กๆยังไม่รับรู้ถึงประสบการณ์อันน่ากลัวนั้น การแสดงกริยาต่างๆต่อภาพลุงตู่จึงเป็นสิ่งที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์อันปราศจากความกลัว


พวกเขาแสดงออกอย่างที่คิด ให้ค่าป้ายลุงตู่หรือแม้แต่ตัวลุงตู่ไม่ต่างจาก ลุงปื๊ด ลุงเบิ้ม ลุงแม้ว หรือลุงกำนัน แถวๆบ้านพวกเขา


เป็นนักวิทยาศาสตร์อีกนั่นแหละที่บอกว่า อาการขนลุก หรือเหงื่อไหลออกบนฝ่ามือเมื่อเรารู้สึกกลัว เป็นปฎิกริยาอัตโนมัติของสัตว์ที่มีวิวัฒนาการมาจากลิง



ขนลุก เพื่อขู่สิ่งที่เรากลัว พองตัวให้ดูใหญ่ ข่มศัตรู เหงื่อออกที่มือ เพื่อให้มือมีความหนืดเพิ่มขึ้น พร้อมสำหรับปีนป่ายกิ่งไม้หนีเอาชีวิตรอด


การตะหวาด อาการหงุดหงิด โมโห ฉุนเฉียว การดุด่า การทำเป็นหลงลืมเรื่องที่ตัวเองเคยพูดเคยสัญญา การขู่จะใช้อำนาจจัดการกับคนอื่น



ก็อาจเป็นปฎิกริยาของคนที่มีวิวัฒนาการมาจากคณะรัฐประหาร เป็นอาการที่หลงเหลืออยู่ขณะที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากอดีตนายทหารสู่นักการเมือง


การตะหวาด อาการหงุดหงิด โมโห ฉุนเฉียว การดุด่า การทำเป็นหลงลืมเรื่องที่ตัวเองเคยพูดเคยสัญญา การขู่จะใช้อำนาจจัดการกับคนอื่น


อาจจะเป็นปฎิกริยาที่เกิดขึ้นอัตโนมัติเมื่อเขารู้สึกกลัว


กลัวประชาชน ซึ่งเขาเผลอคิดไปเองว่า เป็นศัตรู



สำหรับคนที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่า ไอ้ห่านี่เขียนกวนตีนลุงตู่ น่าแชร์ไปให้ถึงหูลุง ผมก็ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ไม่ต้องแชร์เยอะ เพราะผมก็กลัว




งานภาพชุดนี้ ถูกเผยแพร่ครั้งแรกในเฟซบุ๊คแฟนเพจ www.realframe.co เป็นผลงานที่ได้หลังจากเข้าอบรมถ่ายภาพเพื่อสิทธิมนุษยชน Shoot It Rights ครั้งที่ 1 ข้อเขียนชิ้นนี้ ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกที่ www.underdogs.xyz ซึ่ง หมาตัวนั้นได้มอบงานเขียนชิ้นนี้ให้แก่ The Isaander เพื่อเฉลิมฉลอง การยุติการออกอากาศของรายการ คสช. ช่วงเย็น และค่ำ ผู้เขียน และผู้ถ่ายภาพ : Non Phai. นักข่าวปลอม เขียนข่าวในประเทศไทย เอาใจเมกา #TheIsaander #Isaan #Isaannews #อีสานเด้อ #อีสาน #ข่าวอีสาน #ดิอีสานเด้อ #ทำไมต้องกลัวลุงตู่ #ย้อนหยังต้องย่านลุงตู่ #คสช #ยุติ #ลุง #ตู่ #พบธอร#ผักอีตู่ #ขี้ตู่ #บ่ย่านปานได๋ #กอรมน #อย่าเด้อ #บ่อยากปรับ #ทัศนคติ




68 views0 comments
bottom of page