ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่นายคำแพง นันทบุตร อายุ 48 ปี ชาวบ้านโซงเลง หมู่ 10 ต.หนองม้า อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ พร้อมญาติพี่น้อง ได้ร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบกรณีที่ พลทหาร ลือชานนท์ นันทบุตร อายุ 22 ปี ทหารเกณฑ์สังกัดกองพันทหารสารวัตร สำนักกองบัญชาการ กองบัญชาการกองทัพไทย เสียชีวิตปริศนาบนดาดฟ้าของอาคารภายในกองทันทหารสารวัตร ซึ่งจากการสอบถามจากเพื่อนทหารของลูกชายได้รับคำตอบไม่ตรงกัน บางคนว่าตกตึกตาย ขณะที่บางคนบอกว่าถูกไฟช็อตตาย และต่อมาโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทยได้ออกมาแถลงข่าวว่าพลทหาร ลือชานนท์ไม่ได้ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต แต่ตกตึกลงมาเสียชีวิต ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (24 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 10 บ้านโซงเลง ต.หนองม้า อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นที่ตั้งศพของพลทหาร ลือชานนท์ นันทบุตร อดีตทหารสังกัดกองพันทหารสารวัตร สำนักกองบัญชาการ กองบัญชาการกองทัพไทย ได้มีพ่อแม่ ญาติพี่น้องมาร่วมงานศพ พร้อมทั้งพากันเข้าไปจุดธูปเคารพศพของพลทหาร ลือชานนท์ โดยมีคณะครูจากโรงเรียนบ้านโซงเลง ซึ่งพลทหาร ลือชานนท์เรียนอยู่ ได้นำเอาพวงหรีดที่เป็นพัดลมมาเคารพศพเพื่อเป็นการไว้อาลัยด้วย ขณะที่บรรดาญาติพี่น้องได้พากันจัดเตรียมอาหารเพื่อต้อนรับแขกที่พากันทยอยมาร่วมงานศพ
นายคำแพง นันทบุตร อายุ 48 ปี พ่อของพลทหาร ลือชานนท์ กล่าวว่า ที่มีการแถลงข่าวว่า พลทหาร ลือชานนท์ไม่ได้โดนทำร้าย และตกตึกตายเองนั้น ตนไม่เชื่อ เนื่องจากว่าหากไม่โดนทำร้าย แล้วทำไมจึงมีรอยฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง อีกทั้งโทรศัพท์มือถือของลูกชายของตนก็ยังคงอยู่ในสภาพดี ไม่มีร่องรอยความเสียหาย หากตกลงมาจากตึกโทรศัพท์ก็น่าจะชำรุดเสียหาย ตนเชื่อว่าลูกชายของตนถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตอย่างแน่นอน เนื่องจากก่อนหน้านี้ลูกชายของตนโทรศัพท์มาเล่าให้ฟังเสมอว่ามีปัญหากับเพื่อนทหารด้วยกันและมีปัญหากับนายทหารนายหนึ่ง อาจจะโดนทำร้ายจนเสียชีวิตในเร็วๆ นี้
ตนจึงเชื่อมั่นว่า พลทหาร ลือชานนท์ไม่ได้ตกตึกตายตามที่มีการแถลงข่าวของโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทยอย่างแน่นอน ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีการสั่งการให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง เพื่อเป็นการให้ความเป็นธรรมให้แก่ตนและครอบครัวด้วย
นางรัตนาภรณ์ จันทโคตร อายุ 47 ปี แม่ของพลทหาร ลือชานนท์ กล่าวว่า นนท์ลูกชายของตนเป็นคนดี จะโทรศัพท์มาเล่าให้ตนฟังเสมอว่าในแต่ละวันมีเหตุการณ์อะไรบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่มีเรื่องกับทหารซึ่งเป็นชาว จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นปัญหาขัดแย้งรุนแรงมาก ตนจึงเชื่อมั่นว่าลูกชายของตนจะต้องถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต แล้วมีการอำพรางคดีอย่างแน่นอน ตนขอให้ผู้มีอำนาจในกองทัพไทยได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อไม่ให้ลูกชายของตนต้องตายฟรี ตนเชื่อมั่นในเกียรติยศและศักดิ์ศรีของกองทัพไทย มั่นใจว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ตนและครอบครัวในเรื่องนี้ได้
ทางด้าน น.ส.บุษกร นันทบุตร อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 10 บ้านโซงเลง อาของพลทหาร ลือชานนท์ กล่าวว่า เชื่อว่าหลานชายถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตอย่างแน่นอน ต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ การที่จะเข้าไปตรวจสอบในค่ายทหารนั้น บุคคลภายนอกไม่สามารถที่จะเข้าไปค้นหาข้อเท็จจริงได้ ต้องขอความเมตตาจากผู้มีอำนาจในกองทัพไทยทำการสอบสวนข้อเท็จจริง
ส่วนกำหนดการฌาปนกิจศพของพลทหาร ลือชานนท์นั้นจะมีการหารือกันระหว่างญาติพี่น้องในเร็วๆ นี้ว่าจะเก็บศพเอาไว้เพื่อรอผลการพิสูจน์ข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าน้องนนท์ตายเพราะอะไร หรือจะทำการฌาปนกิจศพตามประเพณีต่อไป ขณะนี้พวกเรายังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอบคุณสื่อมวลชนทุกแขนงที่ให้ความสนใจติดตามทำข่าวเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่น้องนนท์ในครั้งนี้
---
ก่อหน้านนั้นผู้จัดการรายงานว่า วันที่ 23 พ.ค. 62 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ บ้านเลขที่ 88 บ้านโซงเลง หมู่ 10 ต.หนองม้า อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นที่ตั้งศพของพลทหารลือชานนท์ นันทบุตร อายุ 22 ปี ที่เสียชีวิตอยู่ในกองพันทหารสารวัตร สำนักกองบัญชาการกองบัญการกองทัพไทย และญาติได้นำมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด
นายคำแพง นันทบุตร อายุ 48 ปี พ่อของพลทหารลือชานนท์ เล่าว่า น้องนน หรือพลทหารลือชานนท์ เป็นลูกชายคนเดียวของตนกับนางรัตนาพร ผู้เป็นแม่เขา น้องนนเป็นเด็กดีไม่เกเร อยู่ในโอวาทของพ่อแม่ ตั้งใจเรียนหนังสือ ชอบเล่นกีฬาฟุตบอล โดยน้องนนเรียนจบชั้น ปวส.สาขาช่างไฟฟ้าจากวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ เมื่อลูกถึงกำหนดเกณฑ์ทหารน้องนนก็ได้สมัครเป็นทหารโดยไม่ต้องจับใบดำใบแดงสมัครเป็นทหารสารวัตร แต่ก็มาเป็นแบบนี้ ตนได้รับแจ้งโทรศัพท์จากผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น เมื่อบ่ายวันที่ 21 พ.ค. 62 ว่าลูกชายเสียชีวิต ซึ่งศพเน่าเฟะแล้วทำไมคนเสียชีวิตหลายวัน คนหายไป 1 คน ทำไมไม่มีการติดตามถามหา
ผู้เป็นพ่อกล่าวอีกว่า ตนติดใจในหน่วยงานกองพันทหารสารวัตร ทำไมปล่อยให้ลูกของตนมาตาย และสรุปสาเหตุการตายง่ายๆ ตนมีลูกคนเดียว ยังยอมเสียสละให้ลูกไปรับใช้ชาติได้ แต่เมื่อลูกของตนต้องมาตาย จึงอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบบ้าง มาให้ความเป็นธรรมแก่ตนและครอบครัว ตนขอฝากวอนไปถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ท่านเป็นผู้นำระดับประเทศ ขอให้ช่วยเหลือดูแลให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวเราด้วย
ด้านนางรัตนาพร แม่ของพลทหารลือชานนท์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนมีลูกคนเดียว สุขภาพร่างกายของตนก็ไม่ค่อยดี ไม่สบายเทียวไปหาหมออยู่ประจำ จึงหวังในตัวลูกหวังว่าจะได้พึ่งพาลูก อยากให้ลูกเรียนเป็นทหาร แต่ลูกก็ต้องมาเป็นอย่างนี้ แล้วจะทำอย่างไรต่อไปล่ะทีนี้ ตนและครอบครัวอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บังคับบัญชาของลูกช่วยให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวตนด้วย
ส่วนอาของน้องนน คนหนึ่ง กล่าวว่า ตอนที่น้องนนฝึกเสร็จ ได้กลับมาเยี่ยมบ้าน ตอนมาครั้งที่สองเมื่อต้นเดือนนี้ พวกญาติก็พูดกับน้องนนว่า ให้สมัครเรียนต่อเป็นนายสิบทหาร เพื่อจะได้เป็นข้าราชการ ให้พ่อแม่ได้อาศัยสิทธิทางราชการในการรักษาพยาบาล แต่น้องนนก็พูดขึ้นว่าพวกอาน่ะไม่รู้อะไรหรอกว่า นนเจออะไรบ้างตอนที่อยู่ในนั้น พวกอาก็สงสัยในคำพูดของหลาน หลังจากที่น้องนนพูดจบก็ร้องไห้ออกมา ทางญาติพี่น้อง พ่อแม่จึงติดใจสงสัยในคำพูดหลานว่า มีอะไรอยู่ในนั้น
ขณะเดียวกัน พล.ต.กฤษณ์ จันทรนิยม โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ได้ชี้แจงถึงกรณีที่ญาติพลทหารลือชานนท์ นันทบุตร ทหารกองประจำการ ผลัดที่ 2/2561 สังกัดกองพันทหารสารวัตร สำนักกองบัญชาการ กองบัญชากองทัพไทย มีความสงสัยถึงเงื่อนงำการเสียชีวิตของพลทหารลือชานนท์ ที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 พ.ค. ผ่านมาว่า
"พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด มีความห่วงใยและขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ในเบื้องต้นได้รับรายงานแล้ว พร้อมสั่งการเร่งด่วนให้มีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงโดยละเอียด ด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม เพื่อให้ความกระจ่างและเป็นธรรมแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต และได้เน้นย้ำให้หน่วยต้นสังกัดดูแลการจัดงานศพของผู้เสียชีวิตอย่างดีที่สุด และอำนวยความสะดวกแก่ญาติในการดำเนินการตามขั้นตอนทางราชการ"
ทั้งนี้ จากการสืบสวนพยานบุคคลที่พบผู้เสียชีวิตครั้งสุดท้ายทราบว่า พบเห็นผู้เสียชีวิตได้ขึ้นไปนั่งคุยโทรศัพท์บนชั้นดาดฟ้า แล้วจากนั้นก็ไม่พบเจอผู้เสียชีวิตอีกเลย ส่วนประเด็นเรื่องการเมาสุราแล้วเกิดเหตุทะเลาะวิวาท หรือการถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ตามที่สื่อสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้ ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน เพราะมีเพื่อนพลทหารในหน่วยยืนยันในเวลาที่เกิดเหตุสอดคล้องกัน ซึ่งทางตำรวจจะได้ทำการสอบสวนตามแนวทางต่อไป
ดังนั้น ขอให้สังคมอย่าเพิ่งด่วนตัดสินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งการพิสูจน์หลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปสู่ข้อเท็จจริง.
---
ไทยรัฐรายงาน เช่นกันว่า วันที่ 23 พฤษภาคม 2562 ที่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 10 บ้านโซงเลง ต.หนองม้า อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ นายคำแพง นันทบุตร อายุ 48 ปี และ นางรัตนาภรณ์ จันทโคตร อายุ 47 ปี ได้นำศพของ พลทหาร ลือชานนท์ นันทบุตร อายุ 22 ปี อดีตพลทหารเกณฑ์ สังกัดหน่วยทหารแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ ซึ่งเสียชีวิตภายในหน่วยทหารมาตั้งบำเพ็ญกุศลท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าโศก มีบรรดาญาติพี่น้องพากันมาร่วมจัดเตรียมงาน
ศพของพลทหาร ลือชานนท์ตั้งอยู่กลางบ้าน มีรูปภาพของพลทหาร ลือชานนท์ในชุดเครื่องแบบทหาร ตั้งอยู่ด้านหน้าโลงศพ ขณะที่ญาติพี่น้องพากันมาจุดธูปเคารพศพอย่างต่อเนื่อง เพราะ พลทหาร ลือชานนท์เป็นที่รักของครอบครัวญาติพี่น้องมาก เนื่องจากเป็นเด็กหนุ่มนิสัยดี เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ เป็นเด็กเรียนหนังสือ ตั้งใจเรียนจนสำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงจากวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ และได้สมัครเข้าเป็นทหารเกณฑ์โดยหวังว่าจะสอบเข้ารับราชการทหารเมื่อมีโอกาส ทำให้ญาติพี่น้องรักอาลัยพลทหาร ลือชานนท์เป็นอย่างมาก
นายคำแพง พ่อของพลทหาร ลือชานนท์ กล่าวว่า ได้ไปรับศพลูกชายกลับมาถึงบ้านเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ โดยตนรับศพมาจากโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งได้รับทราบผลการชันสูตรศพของแพทย์ว่าสาเหตุที่ลูกชายของตนเสียชีวิตเนื่องจากบริเวณด้านหลังถูกกระแทกด้วยของแข็ง และมีรอยฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง ตนได้ไปตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบว่า บริเวณระเบียงชั้น 3 ของอาคารหลังหนึ่งภายในค่ายทหารมีรอยเลือดกองอยู่และมีการนำเอาเศษดินมาโรยกลบรอยเลือดเอาไว้
ตนได้สอบถามจากเพื่อนทหารของลูกชายได้รับคำตอบไม่ตรงกัน บางคนบอกว่าลูกชายของตนโดนไฟช็อตเสียชีวิต บางคนบอกว่าตกตึกเสียชีวิต ซึ่งจากการที่ตนได้ตรวจดูร่างกายลูกชายแล้วไม่พบร่องรอยการถูกไฟช็อตแต่อย่างใด ทำให้ตนสงสัยในสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายเป็นอย่างมาก มั่นใจว่าลูกชายของตนจะต้องโดนฆ่าแล้วมีการอำพรางศพว่าเสียชีวิตเพราะไฟช็อตและตกตึก เป็นไปไม่ได้ที่ลูกชายจะเสียชีวิตเพราะสาเหตุที่ได้รับทราบมา
จึงขอวอนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้โปรดสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมกับตนและครอบครัวด้วย เนื่องจากครอบครัวของตนมีลูกเพียงคนเดียวคือ พลทหาร ลือชานนท์เท่านั้น การเสียชีวิตของลูกชายคนเดียวของครอบครัวทำให้ตนและครอบครัวเสียใจมาก
นางรัตนาภรณ์ แม่ของพลทหาร ลือชานนท์ ร่ำไห้กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ก่อนหน้านี้ตนจะโทรศัพท์คุยกับลูกชายทุกวัน ซึ่งลูกชายจะเล่าให้ฟังว่ามีเรื่องกับเพื่อนทหารด้วยกันเป็นคน จ.สุรินทร์ เนื่องจากลูกชายไปห้ามไม่ให้เพื่อนทหารด้วยกันดื่มเหล้าในค่ายทหาร ทำให้กลุ่มเพื่อนทหารด้วยกันโกรธแค้นมาก และได้เอาเหล้ามากรอกปากลูกชายของตนจนทำให้เลือดไหลออกมาจากปาก อีกทั้งมีเรื่องกับนายทหารคนหนึ่งและโดนทำร้าย จากนั้นถูกนำตัวเข้าไปขังในห้องขัง
ลูกชายเล่าให้ฟังว่า ไม่อยากเป็นทหารแล้ว อยากกลับมาอยู่บ้านเหมือนเดิมเพราะโดนทำร้ายและโดนกลั่นแกล้งอย่างต่อเนื่อง ตนได้ให้กำลังใจลูกชายไปว่า ให้อดทนเพราะจะได้มีโอกาสสอบเข้ารับราชการทหาร หากเป็นทหารเกณฑ์อยู่แล้วก็จะมีสิทธิ์สอบได้มากกว่าคนทั่วไป ตนหวังจะให้ลูกชายคนเดียวของครอบครัวรับราชการทหารเพราะเป็นอาชีพที่มีเกียรติเป็นรั้วของชาติ แต่ไม่คิดเลยว่าการที่ให้ลูกชายไปสมัครเป็นทหารเหมือนกับส่งให้ลูกชายไปถูกฆ่าตาย ไม่เชื่อว่าลูกชายจะตายเพราะอุบัติเหตุ มั่นใจว่าลูกชายถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน จึงร้องขอความเป็นธรรมไปยังนายทหารระดับสูงทุกคนในกองทัพไทยด้วย
---
Comments